แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3
รายวิชา ตะกร้อ พ 30207 ชั่วโมงที่ 3
เรื่อง การอบอุ่นร่างกาย เวลา 1 ชั่วโมง
สาระที่ 3 การเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกม
กีฬาไทย และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย
การเล่มเกม และกีฬา
พ 3.2 รักการออกกำลังกาย
การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ
กติกา มีน้ำใจเป็นนักกีฬา มีจิตวิญาณในการแข่งขัน และชื่นชม
ในสุนทรียภาพของการกีฬา
ตัวชี้วัด ม 2/2 เลือกเข้าร่วมกิจกรรมการออกกำลังกาย
เล่นกีฬาตามความถนัดและความสนใจ พร้อม ทั้งวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างบุคคลเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเอง
ม 2/3 มีวินัย ปฏิบัติตามกฎ กติกา
และข้อตกลงในการเล่นกีฬาที่เลือก
สาระสำคัญ
การอบอุ่นร่างกายเป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนการเล่นกีฬา
การอบอุ่นร่างกายที่ถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยป้องกันการฉีกขาดของกล้ามเนื้อและการบาดเจ็บ
อันเนื่องมาจากการเล่นกีฬา
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการอบอุ่นร่างกายด้วยวิธีต่างๆ
ได้ถูกต้อง
2. นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญของการอบอุ่นร่างกาย
3. นักเรียนสามารถปฏิบัติการอบอุ่นร่างกายโดยการทำกายบริหารได้
4. นักเรียนสามารถทำกายบริหารได้อย่างถูกวิธีไม่น้อยกว่า
12 ท่า
สาระการเรียนรู้
1. ความหมายของการอบอุ่นร่างกาย
ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าการอบอุ่นร่างกายก่อนการฝึกซ้อมหรือเล่นกีฬา
ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตัวนักกีฬาเป็นอย่างยิ่ง
ทำให้สามารถเล่นกีฬาได้อย่างมีประสิทธิภาพและยังช่วยลดการบาดเจ็บ เช่น
กล้ามเนื้อฉีก นายแพทย์วิชัย
วนดุรงค์วรรณ ได้ให้ความหมายของการอบอุ่นร่างกายไว้ว่า (วิชัย วนดุรงค์วรรณ ,
2534 : 290)
การอบอุ่นร่างกาย หมายถึง
การเตรียมร่างกายให้พร้อม โดยเฉพาะระบบโครงสร้าง เช่น กล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อ
และเอ็นยึดข้อต่อ รวมทั้งระบบอื่นๆ เช่น ระบบหายใจและการไหลเวียนโลหิต ฯลฯ
1. ประโยชน์ของการอบอุ่นร่างกาย
การอบอุ่นร่างกายมีประโยชน์ต่อร่างกาย 3 ประการ คือ (จรวยพร ธรณินทร์, 2522 :
358 )
1.1
ทำให้การประสานงานระหว่างกล้ามเนื้อและประสาทและระหว่างกลุ่มกล้ามเนื้อด้วยกันเป็นไปอย่างถูกต้องและราบรื่น
การปฏิบัติตามเทคนิคจะทำได้ดี
1.2 เพิ่มอุณหภูมิในกล้ามเนื้อ
ทำให้กล้ามเนื้อหดตัวได้ประสิทธิภาพสูงสุด
1.3
ปรับการหายใจและการไหลเวียนเลือดให้เข้าใกล้ระยะคงที่
(Steady state ) เป็นการย่นระยะการปรับตัว
(Adaptation period)
จากที่กล่าวมาจะเห็นว่าการอบอุ่นร่างกายช่วยทำให้กล้ามเนื้อมัดต่างๆ
ทำงานประสานกัน
ซึ่งการทำงานของกล้ามเนื้อก็คือการหดและคลายตัวตามลักษณะการเคลื่อนไหว ดังนั้น
หากกล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกันจะทำให้เกิดแรงกระชากต่อกล้ามเนื้อที่อ่อนแอกว่า
ทำให้เกิดการฉีกขาด
นอกจากนี้การอบอุ่นร่างกายยังช่วยยึดเส้นเอ็นและเนื้อเยื่อต่างๆ
ทำให้ร่างกายมีความอ่อนตัว ลดการฉีกขาดของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นต่างๆ ได้
ในขณะที่อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นจะช่วยให้การใช้พลังงานของเซลล์ต่างๆ
ของร่างกายเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น ร่างกายต้องหายใจเพื่อเพิ่มออกซิเจน
รวมทั้งเพิ่มการไหลเวียนของเลือดเพื่อเป็นการปรับตัวของร่างกายให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่องอย่างช้าๆ
จนในที่สุดร่างกายจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ตามหลักการด้านสรีรวิทยาแบ่งการอบอุ่นร่างกายออกเป็น
2 แบบ คือ ( วุฒิพงษ์ และ อารี ปรมัตถากร , 2532 : 24 )
-
การอบอุ่นทั่วไป
-
การอบอุ่นเฉพาะ
การอบอุ่นทั่วไปเพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวทั่วๆ
ไป เช่น การวิ่งเหยาะๆ ส่วนการอบอุ่นเฉพาะเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ
หรือร่างกายได้ออกกำลังสำหรับกิจกรรมเฉพาะอย่าง เช่น
การบริหารร่างกายโดยการยืดกล้ามเนื้อหลังและกล้ามเนื้อขาของนักกี๊ฬาตะกร้อ
2. การทำให้กล้ามเนื้ออ่อนตัว
การทำให้กล้ามเนื้ออ่อนตัว
ทำได้หลายวิธีดังนี้ ( วิชัย วนดุรงค์วรรณ , 2534: 290-291 )
2.1 โดยการฝึก ซึ่งแบ่งออกเป็น
3.1.1 ฝึกด้วยตนเอง
ได้แก่ การออกกำลังกายแต่เพียงเบาๆ เช่น การวิ่งเหยาะ ๆ การชกลม การดัดตน ฯลฯ
เหมาะสำหรับการเตรียมตัวโดยใช้ระยะเวลาก่อนหน้าลงสนามเข่งขันเล็กน้อย
การบีบ
การนวด หรือการเฟ้นกล้ามเนื้อมัดที่มีอาการตึงตัวแต่เพียงเบาๆ
เหมาะสำหรับนักกีฬาที่เสร็จจากการฝึกซ้อมหรือแข่งขันกีฬาแล้ว
4.1.2 ฝึกโดยมีผู้ช่วย
ผู้ช่วยเหลืออาจจะเป็นนักกีฬาด้วยกันหรือครูฝึกสอน ตลอดจนถึงบุคลากรทางการแพทย์
เช่น บุรุษพยาบาล พยาบาล นักกายภาพบำบัด นักอาชีวบำบัด
ไปจนถึงแพทย์เข้ามาช่วยเหลือโดยการเคล้นคลึง บีบนวดเพียงเบาๆ
หรือการมีผู้ช่วยเหยียดช่วยงอข้อต่อของแขนหรือขา มีผู้ช่วยดัดตน เป็นต้น
4.2 โดยใช้อุปกรณ์
เพื่อเพิ่มอุณหภูมิเฉพาะที่ของมัดกล้ามเนื้อที่มีอาการตึงอยู่ในขณะนั้นให้อ่อนตัวลง
อุปกรณ์ต่างๆได้แก่
1.1.1
การใช้ผ้าหนาๆปิดคลุม
1.1.2
การสวมเสื้อวอร์มทับ
1.1.3
การใช้น้ำมันหรือยาทาภายนอกบางชนิดทาหรือถู
หรือเคล้น บีบหรือนวดแต่เพียงเบาๆ เป็นต้น
1.1.4
การประคบน้ำร้อน
ด้วยกระเป๋าน้ำร้อนกรือกระเป๋าไฟฟ้า
1.1.5
การอบคลื่นเสียง
เพื่อให้การสั่นสะเทือนและความร้อนเฉพาะที่ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
1.1.6
การฉายรังสีอุลตร้าไวโอเลต
วิธีการทั้งหมดนี้มีความมุ่งหมายเพื่อเพิ่มอุณหภูมิเฉพาะที่ตรงบริเวณกล้ามเนื้อมีอาการตึงอยู่โดยหวังผลให้เส้นเลือดบริเวณนั้นขยายตัว
เมื่ออัตราการไหลเวียนและปริมาณโลหิตที่ไหลผ่านบริเวณนั้นมากขึ้น
จะช่วยให้กล้ามเนื้อชุ่มและในที่สุดกล้ามเนื้อที่ตึงนั้นจะค่อยๆอ่อนตัวลง
กิจกรรมการเรียนการสอน
1.
การนำเข้าสู่บทเรียน
1.1 ครูแจ้งให้นักเรียนจัดแถวตอน 5 แถว
แต่ละแถวประกอบด้วยนักเรียนจำนวน 2 กลุ่ม โดยให้กลุ่มที่ 1
และกลุ่มที่ 2อยู่แถวที่ 1 กลุ่มอื่นๆให้เรียงไปตามลำดับ
1.2 ครูแนะนำให้นักเรียนทุกคนได้น้อมนำเอาหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ในการเรียนรู้การอบอุ่นร่างกายเพราะจะทำให้มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตนเอง
และจะเป็นประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกมาก
1.3 ครูชี้ให้นักเรียนได้ตระหนักถึงความสำคัญของหลักเศรษฐกิจพอเพียงดังนี้
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีหลักพิจารณาอยู่ ส่วน ดังนี้
1. กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่
และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็น โดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย
นำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา เป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัยวิกฤต เพื่อความมั่นคงและความยั่งยืนของการพัฒนา
2. คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ทุกระดับ
โดยเน้นการปฏิบัติบนทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน
3. คำนิยาม ความพอเพียง ต้องประกอบด้วย 3
คุณลักษณะ พร้อมๆ กัน ดังนี้
3.1 ความพอประมาณ หมายถึง
ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไป และไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น
3.2 ความมีเหตุผล หมายถึง
การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความพอเพียง
ต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
และคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นอย่างรอบคอบ
3.3 การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี หมายถึง
การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบ และการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ
ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต
4.
เงื่อนไข การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ
ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้ และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน ประกอบด้วย
4.1 เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย
ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกันเพื่อประกอบการวางแผน
และความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ
4.2 เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วย
มีความตระหนักในคุณธรรม
มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความอดทน มีความเพียร
ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต
4.3 แนวทางปฏิบัติ/ผลที่คาดว่าจะได้รับ
จากการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน
พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความรู้และเทคโนโลยี
1.1 ครูให้นักเรียนกลุ่มที่ 5 และ 6 ออกมานำกายบริหาร
จำนวน 10 ท่า ท่าละ 10 ครั้ง
1.2 เมื่อนักเรียนทำกายบริหารเสร็จ
ครูให้นักเรียนเดินไปนั่งบนเก้าอี้ ซึ่งได้จัดเรียงไว้เป็นแถวหน้ากระดาน จำนวน 5 แถว
ต่อจากนั้นครูแจ้งให้นักเรียนทราบว่านักเรียนจะได้เล่นเกม “ลำเลียงตะกร้อ”
ซึ่งมีวิธีการเล่นต่อไปนี้
1.2.1
ให้ผู้เล่นที่นั่งอยู่หัวแถวถือตะกร้อไว้คนละ
1 ลูก
1.2.2
เริ่มเล่นโดยให้คนหัวแถวเหยียดขาออกไปข้างหน้าทั้งสองข้าง
แล้ววางตะกร้อไว้บนขาท่อนล่าง ต่อจากนั้นส่งตะกร้อไปให้คนที่ 2 โดยนำตะกร้อไปวางไว้ที่ขาท่อนล่างของคนที่สองที่เหยียดขามารับตะกร้อไว้
คนที่สองส่งตะกร้อไปให้คนต่อไปในลักษณะเดียวกันจนถึงคนสุดท้าย
1.2.3
ถ้าผู้เล่นทำตะกร้อตกพื้นให้ใช้มือเก็บตะกร้อมาวางบนขาได้
แต่ห้ามใช้มือช่วยในการส่งตะกร้อ
1.3
ครูให้นักเรียนคนหัวแถวและคนที่สองของแต่ละแถวสาธิตการส่งตะกร้อและรับตะกร้อโดยมีครูคอยชี้แนะวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องให้
1.4 ครูซักถามและทบทวนวิธีการเล่นอีกครั้งหนึ่งเพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนต่อจากนั้นครูให้นักเรียนแต่ละแถวเลือกหัวหน้าทีมเพื่อวางแผนการเล่น
1.5 ครูเป่านกหวีดเพื่อเริ่มการแข่งขันสรุปผลการแข่งขันเมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลงจากนั้นครูให้แถวที่เสร็จเป็นแถวสุดท้ายออกมาลำวง
1 รอบ
1.6 ครูนำวีดีทัศน์แสดงการอบอุ่นร่างกาย (Warming up) มาเปิดให้นักเรียนดูในวีดิทัศน์เป็นการอบอุ่นร่างกายของนักกีฬาวอลเล่ย์บอลและบาสเก็ตบอลใช้เวลาประมาณ
3 นาที เมื่อหมดภาพของการอบอุ่นร่างกายแล้วให้หยุดภาพ
1.7 ครูสุ่มถามนักเรียนจำนวน 2 คน
ว่าทำไมก่อนการเล่นกีฬาหรือซ้อมกีฬาจึงต้องมีการอบอุ่นร่างกายทุกครั้ง (นักเรียนอาจจะตอบผิดหรือถูกก็ไม่สำคัญ เพราะเป็นการสร้างความสนใจของนักเรียน)
1.8 ครูสนทนาซักถามนักเรียนต่อไปว่าการอบอุ่นร่างกายที่นักเรียนเคยเห็นหรือมีประสบการณ์มานั้นมีวิธีอะไรบ้าง
และกีฬาแต่ละประเภทมีท่ากายบริหารเหมือนหันหรือแตกต่างกันอย่างไร(คำตอบของนักเรียนอาจมีทั้งถูกและผิด
เพราะนักเรียนยังไม่ทราบว่าการอบอุ่นร่างกายมีสองแบบ
คือการอบอุ่นทั่วไปและการอบอุ่นเฉพาะของกีฬาประเภทนั้น)
1.9 ครูเสริมให้นักเรียนทราบว่ากีฬาแต่ละประเภทจะมีการอบอุ่นร่างกาย
โดยทำกายบริหารท่าต่างๆ กัน
ขึ้นอยู่กับชนิดของกีฬาว่าจะใช้อวัยวะส่วนใดของร่างกายเล่นมากที่สุด
สำหรับตะกร้อซึ่งเป็นกีฬาใช้เท้าเตะก็จะมีวิธีกายบริหารอีกแบบหนึ่ง ซึ่งนักเรียนจะได้ศึกษาดูจากวีดีทัศน์ในชั่วโมงนี้
1.10 ครูแจ้งจุดประสงค์ให้นักเรียนทราบว่าเมื่อเรียนจบคาบนี้แล้ว
นักเรียนจะต้อง
1.10.1
บอกความหมายของการอบอุ่นร่างกายได้ถูกต้อง
1.10.2
บอกวิธีการทำให้กล้ามเนื้ออ่อนตัว
โดยการฝึกด้วยตนเองหรือการใช้อุปกรณ์ช่วย
1.10.3
อธิบายวิธีการทำกายบริหารได้อย่างถูกต้องไม่น้อยกว่า
12 ท่า
1.10.4
บอกได้ว่าการอบอุ่นร่างกายช่วยลดการฉีกขาดของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นต่างๆ
ได้
1.10.5
บอกได้ว่าการอบอุ่นร่างกายช่วยปรับการหายใจ
การไหลเวียนของโลหิตและอุณหภูมิของร่างกายให้เข้ากับสภาพกีฬาที่จะเล่น
1.10.6
สามารถทำกายบริหารได้อย่างถูกวิธีไม่น้อยกว่า
12 ท่า
1.11 ครูแจกแบบสอบวัดหมายเลข 3 ให้นักเรียนทำใน 5 นาที แล้วเก็บคืนเพื่อตรวจและบันทึกคะแนนไว้ในแบบบันทึกคะแนนประจำคาบหมายเลข
3
2.
การดำเนินการสอน
1.1 ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกประธานและเลขานุการของกลุ่ม
หลังจากนั้นครูแจก ใบงานหมายเลข 3 และใบความรู้หมายเลข 3 ให้นักเรียนปฏิบัติโดยใช้เวลา 7 นาที
1.2 ครูให้นักเรียนจัดแถวตอน จำนวน 5 แถว
ให้นักเรียนแต่ละคนอยู่ห่างกันในระยะ
ที่สามารถทำกายบริหารท่าต่างๆ ได้
หลังจากนั้นครูให้นักเรียนชมวีดิทัศน์การบริหารร่างกายของนักกีฬาเซปัคตะกร้อ จำนวน
20 ท่า ขณะชมการบริหารแต่ละท่าครูให้นักเรียนทุกคนทำตามแบบ
โดยครูจะหยุดภาพให้เป็นภาพนิ่งเป็นระยะ เพื่อให้นักเรียนสามารถทำตามแบบได้ทัน
1.3 เมื่อนักเรียนบริหารร่างกายตามแบบครบ 20 ท่า
ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มแยกออกไปทำการบริหารร่างกายเป็นรายกลุ่ม
โดยครูให้นักเรียนเลือกฝึกการบริหารร่างกายที่เป็นการอบอุ่นเฉพาะของกีฬาตะกร้อ
1.4 ขณะที่นักเรียนกำลังปฏิบัติกิจกรรมตามข้อ
2.1 ถึงข้อ 2.3
อยู่นั้น
ครูคอยสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนทุกกลุ่มโดยสังเกตพฤติกรรมดังต่อไปนี้
1.4.1
ความตั้งใจ
1.4.2
ความร่วมมือภายในกลุ่ม
1.4.3
ความมีระเบียบวินัย
1.4.4
ความรับผิดชอบ
1.4.5
ความอดทน
ครูบันทึกผลการสังเกตลงในแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมนักเรียนหมายเลข
3
1.5 ครูสุ่มนักเรียนออกมา 1 กลุ่ม
เพื่อรายงานประเด็นตามใบงาน หลังจากตัวแทนกลุ่มรายงานเสร็จ
ครูถามนักเรียนกลุ่มอื่นว่ามีความคิดเห็นที่แตกต่างไปหรือไม่
ให้อภิปรายแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
โดยมีครูเป็นผู้ประสานและสอดแทรกเนื้อหาที่ขาดหายไปจนได้ข้อสรุปร่วมกันดังนี้
1.5.1
ก่อนการเล่นกีฬาจำเป็นจะต้องมีการอบอุ่นร่างกาย
เพื่อทำให้กล้ามเนื้อที่ตึงอยู่ค่อยๆ อ่อนตัว
เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อฉีกขาดจากการถูกเหยียดหรือยึดอย่างกระทันหัน
นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มอุณหภูมิในกล้ามเนื้อ
ทำให้กล้ามเนื้อหดตัวอย่างมีประสิทธิภาพและยังเป็นการปรับการหายใจและการไหลเวียนของโลหิต
3.
การสรุปบทเรียน
2.1 ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาสาธิตการทำกายบริหารทำเฉพาะของกีฬาตะกร้อ
กลุ่มละ 1 ท่า
พร้อมทั้งให้บอกประโยชน์ของท่าที่ใช้บริหารร่างกายแต่ละท่า
โดยยึดหลักการว่าถ้าต้องการบริหารร่างกายส่วนใด ต้องทำให้ร่างกายส่วนนั้นเคลื่อนที่หรือหมุน
ส่วนการยึดกล้ามเนื้อให้ยึดหลักว่ากล้ามเนื้อส่วนที่ต้องการจะยึดหรือทำให้อ่อนตัวจะอยู่ในลักษณะตึงขณะทำการยึด
2.2 ครูแจกแบบสอบวัดหมายเลข 3 ให้นักเรียนทำอีกครั้งหนึ่งแล้วเก็บคืนเพื่อตรวจและบันทึกผลการสอบไว้ในแบบบันทึกผลการสอบวัดประจำชั่วโมงเรียนหมายเลข
3
สื่อการเรียนการสอน
1. วีดีทัศน์แสดงการบริหารร่างกายของนักกีฬาวอลเล่ย์บอล
บาสเกตบอล และเซปักตะกร้อ
2. แบบทดสอบก่อน- หลังเรียน
3. ใบงานหมายเลข 3
4. ใบความรู้หมายเลข 3
5. แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนหมายเลข
3
6. แบบบันทึกคะแนนประจำคาบหมายเลข 3
การวัดผลประเมินผล
1. วิเคราะห์จากแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมนักเรียนหมายเลข
3
2. วิเคราะห์จากแบบบันทึกคะแนนประจำคาบหมายเลข
3
บันทึกผลหลังการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ผลการจัดการเรียนรู้
.……………………………………………………………………………..…………………………….…………………………………………………………………………………………..………………..…………………………………………………………………………..……………………………….……………………………………………………………………………………
ปัญหาและอุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………..………
แนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………….………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………
ข้อเสนอแนะ
……………………………………………….…………………………………………………….………………………………………………………….………………………………………………….………………………………………………….……………………………………………
ลงชื่อ ………………………… ครูผู้สอน
(นายสุชาติ ประเสริฐสุข)
ความคิดเห็นของผู้บริหาร
…………………………………………………………………………………………….……….…………..…………………………..…………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชื่อ..........................................
(นายกมล เฮงประเสริฐ)
รองผู้อำนวยการโรงเรียนกลุ่มบริหารวิชาการ
ใบความรู้หมายเลข 3
วิชา พ 30207
ตะกร้อ
|
เรื่องการอบอุ่นร่างกาย
|
ชั้น ม. 6
เวลา 7 นาที
|
3.1 การอบอุ่นร่างกาย
การอบอุ่นร่างกาย
หมายถึง การเตรียมร่างกายให้พร้อม โดยเฉพาะระบบโครงสร้างของร่างกาย เช่น
กล้ามเนื้อ เอ็นยึดข้อต่อ และกระดูกรวมทั้งระบบอื่นๆ เช่น ระบบการไหลเวียนของโลหิตและระบบการหายใจ
ปกติร่างกายมีกล้ามเนื้อ
650 มัด เป็นส่วนที่หนักประมาณ 30-40% ของน้ำหนักตัว กล้ามเนื้อทุกมัดทำงานประสานกันอย่างเป็นระเบียบ
ทำหน้าที่เป็นเครื่องจักรของร่างกาย การทำงานของกล้ามเนื้อ คือ
การหดตัวและคลายตัวตามลักษณะการเคลื่อนไหว
กล้ามเนื้อของนักกีฬาตามปกติจะมีอาการของกล้ามเนื้อตึงกว่าคนทั่วๆ
ไป การอบอุ่นร่างกายจะช่วยให้กล้ามเนื้อที่ตึงตัวอยู่นั้นอ่อนตัวลงบ้าง
เพื่อเผชิญกับการถูกยึดหรือเหยียดอย่างกระทันหันในการเล่นกีฬาเป็นการช่วยลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ
3.2 ประโยชน์ของการอบอุ่นร่างกาย
นักกีฬาที่ซ้อมหรือเล่นกีฬาโดยปราศจากการอบอุ่นร่างกาย
มักจะได้รับบาดเจ็บได้ง่าย สมรรถภาพในการเล่นกีฬาลดลง
แต่ถ้าได้ทำการอบอุ่นร่างกายอย่างเพียงพอจะก่อให้เกิดประโยชน์ดังนี้
3.2.1 ทำให้การประสานงานระหว่างกล้ามเนื้อและประสาท
และระหว่างกลุ่มกล้ามเนื้อด้วยกันเป็นไปอย่างถูกต้องและราบรื่น
เป็นผลทำให้นักกีฬาสามารถตัดสินใจเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ
ของร่างกายได้อย่างดีและรวดเร็ว
3.2.2 ช่วยเพิ่มอุณหภูมิร่างกายและยังเป็นการยึดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นต่างๆ
ทำให้กล้ามเนื้อมีความอ่อนตัว ช่วยลดการฉีกขาดของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นต่างๆ
ลงไปได้
3.2.3 ปรับการหายใจและการไหลเวียนของเลือดให้เข้ากับสภาพการเล่นกีฬาที่กำลังจะเกิดขึ้น
แต่เป็นการปับที่ค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่องช้าๆ
3.3 วิธีการทำให้กล้ามเนื้ออ่อนตัว
นอกจากการทำให้กล้ามเนื้ออ่อนตัวโดยการทำกายบริหารแล้ว
ยังมีวิธีทำให้กล้ามเนื้ออ่อนตัวอีกหลายวิธี เช่น
การบีบนวดหรือการเฟ้นกล้ามเนื้อ การใช้น้ำมันหรือยาทาภายนอกทาถูหรือเคล้น
การประคบด้วยกระเป๋าน้ำร้อน การอบด้วยคลื่นเสียง ฯลฯ
|
วิชา พ 32102
ตะกร้อ
|
ใบงานหมายเลข 3
|
ชั้น ม.6/……
กลุ่มที่………
|
คำสั่ง ให้นักเรียนในกลุ่มศึกษาใบความรู้หมายเลข
3 หลังจากนั้นให้ประธานกลุ่มดำเนินการอภิปรายตามประเด็นที่ให้ไว้
พร้อมทั้งสรุปความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่มลงในแบบที่กำหนดไว้
แล้วให้ตัวแทนกลุ่มออกไปรายงาน
ประเด็นที่ให้อภิปราย
1.
มีนักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่งกล่าวว่า
“การอบอุ่นร่างกาย
ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องทำ” นักเรียนเห็นด้วยหรือไม่
จงอภิปรายและใช้เหตุผล
ข้อสรุป ( ) เห็นด้วย ( ) ไม่เห็นด้วย
เหตุผล
1.
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………
2.
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………
3.
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4.
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
5.
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
6.
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
|
แบบทดสอบก่อน- หลังเรียน หมายเลข 3
คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย
X ลงบนข้อที่ถูกต้อง
1. คำกล่าวในข้อใดผิด
ก. การอบอุ่นร่างกายทำให้การประสานงานของกล้ามเนื้อและประสาทเป็นไปอย่างราบรื่น
ข. การอบอุ่นร่างกายหมายถึง
การเตรียมระบบโครงสร้างของร่างกายให้พร้อมก่อนการเล่นกีฬา
ค. การอบอุ่นร่างกายทำได้โดยการสวมเสื้อวอร์ม
ง. ขณะที่ทำการอบอุ่นร่างกายอยู่นั้น
ร่างกายต้องการใช้ออกซิเจนและพลังงานมากกว่าปกติ
2. ข้อใดไม่ใช่จุดประสงค์ของการอบอุ่นร่างกาย
ก. เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
ข. เพื่อให้กล้ามเนื้อตึง
ค. เพื่อให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น
ง. เพื่อป้องกันการฉีกขาดของกล้ามเนื้อ
3. ข้อใดไม่ใช้วิธีการทำให้กล้ามเนื้ออ่อนตัว
ก. การบีบนวด
ข. การวิ่งช้าประมาณ 1 นาที
ค. การประคบด้วยกระเป๋าน้ำร้อน
ง. การใช้น้ำแข็งประคบ
4. ท่ากายบริหารท่าใดใช้กายบริหารลำตัวและแขนดีที่สุด
ก. ท่าดึงแขน กระตุกศอก
ข. ท่ากังหันลม
ค. ท่ากระโดดตบ
ง. ท่าหมุนเอว
5. ท่ายืดกล้ามเนื้อโดยการนั่งกับพื้นในท่ากระโดดข้ามรั้ว
แล้วโน้มตัวเอามือแตะปลายเท้าด้านหน้าเป็นการยืดกล้ามเนื้อส่วนใด
1. กล้ามเนื้อขาด้านในของเท้าที่ยื่นออกไปด้านหน้า
2. กล้ามเนื้อขาด้านนอกของเท้าที่ยื่นออกไป
3. กล้ามเนื้อขาด่านนอกของเท้าที่พับไปด้านหลัง
4. กล้ามเนื้อหลัง
คำตอบที่ถูกต้องคือ
ก. ข้อ 1,3
ข. ข้อ 3,4
ค. ข้อ 1,3,4
ง. ถูกทั้งข้อ 1,2,3 และ 4
6. ข้อใดเป็นการอบอุ่นร่างกายโดยการใช้อุปกรณ์ช่วย
ก.
การประคบด้วยกระเป๋าน้ำร้อน
ข.
ให้แพทย์ช่วยเคล้นคลึง
ค.
การบีบนวด
ง.
การดัดตน
5. ข้อใดเป็นการฝึกบริหารร่างกายที่เป็นการอบอุ่นร่างกายของนักตะกร้อ
ก. หมุนเอว
ข. หมุนข้อเท้า
ค. กระโดดตบ
ง. นั่งยืดกล้ามเนื้อขา
เฉลย
1. ค 2.
ข 3.
ง 4. ข
5. ค 6.
ก 7.
ง
แบบบันทึกผลคะแนนประจำชั่วโมงเรียนหมายเลข
3
( ) กลุ่มทดลอง ( ) กลุ่มควบคุม ชั้น ……………………
วิชา ตะกร้อ พ 30207 ชั่วโมงที่ 3
ประจำวันที่………………
เลขที่
|
ชื่อ-สกุล
|
สอบก่อน
|
สอบหลัง
|
D
|
1.
2.
3.
4.
5.
.
.
.
|
||||
![]() |
||||
S.D.
|
||||
S
|
……………………………………………
(………………………………………)
ผู้บันทึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น